สำหรับการงีบหลับนั้น ถ้าเรางีบแบบเรื่อยเปื่อยบอกเลยว่าตื่นมางัวเงียแน่นอน เพราะร่างกายเราจะปรับตัวไม่ทัน ทำให้สะลึมสะลือ อ่านหนังสือไม่เข้าหัว เพราะฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าต้องงีบหลับกี่นาทีถึงจะดีที่สุด
งีบหลับ 10–20นาที
เป็นระยะเวลาที่ดีมากแต่ยังไม่ที่สุดนะ งีบหลับประมาณนี้จะทำให้ร่างกายสดชื่น ตื่นมาแล้วจะสดใสไม่สะลึมสะลือเลย เหมาะกับน้อง ๆ ที่ต้องอ่านหนังสือแบบจัดหนัก เพราะจะได้พักแบบใช้เวลาน้อย แต่ได้พลังงานกลับมาเยอะ เขาเรียกการงีบแบบนี้ว่า Power Nap
งีบหลับ 30 นาที
ถ้าจะงีบแบบครึ่งชั่วโมงอันนี้ไม่แนะนำเลยครับ เพราะร่างกายจะมีอาการมึน งง และง่วงตามมา เผลอ ๆ จะทำให้ปวดหัวจนอ่านหนังสือต่อไม่ไหวอีกต่างหาก แล้วกว่าจะกลับมาเป็นปกติดีก็นู่นแหละครับ ใช้เวลาเป็นชั่วโมง
งีบหลับ 60 นาที
สำหรับใครที่อ่านหนังสือไม่ทัน อ่านดึกอ่านดื่นแล้วรู้สึกว่าง่วงอยากพัก ช่วงเวลาการงีบหลับ 60 นาที หรือ 1 ชั่วโมงนี่แหละครับดีที่สุดแล้ว เพราะเป็นระยะเวลาที่ไม่นาน แถมยังส่งผลดีต่อสมองของเรา ทำให้ความจำดีขึ้น อะไรที่อ่านไปแล้วก็จะจดจำได้ทันที เป็นช่วงเวลาการนอนที่เราจะหลับลึกมากที่สุด ตื่นมาแล้วไม่มีการงง เบลอ หรืองัวเงียแน่นอน เป็นเทคนิคเพื่อคนอ่านหนังสือสอบโต้รุ่งแบบน้อง ๆ เลยแหละ
งีบหลับ 90 นาที
อันนี้ก็ดีเหมือนกันครับ เป็นการนอนที่มีครบทุกรสชาติ หลับยาวจนฝันกันไปเลย ตื่นมาแล้วอารมณ์จะดี สมองจะแล่น คิดอะไรก็ปลอดโปร่ง สดชื่นไปหมดแต่อาจไม่เหมาะกับคนอ่านหนังสือเท่าไหร่ เพราะใช้เวลานอนนานนั่นเอง
แต่ถึงแม้น้อง ๆ จะรู้เทคนิคการงีบหลับที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้แล้ว ก็ใช่ว่าจะโต้รุ่งกันได้บ่อย ๆ 4-5 วันติดนะครับ เพราะสุดท้ายการรักษาสุขภาพจะให้ผลดีในระยะยาวกับตัวเราเองมากกว่านะ แถมข้อมูลที่ท่องจำไปแบบเร่งรัดนี้ก็จะอยู่ได้ไม่นาน สอบเสร็จก็ลืม นำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้จริงอีกด้วย
ขอบคุณบทความจาก https://www.afterklass.com/post/detail/5550